วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 – ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทั้งฝั่งเงินกู้และเงินฝากประจำอย่างเป็นทางการ มีผลทันทีตั้งแต่วันนี้ นับเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ขยับปรับลดดอกเบี้ยในรอบนี้ สะท้อนมุมมองเศรษฐกิจที่ยังเปราะบางและการแข่งขันระดมเงินฝากที่เริ่มผ่อนคลาย
ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.05–0.10% ครอบคลุมทั้ง MLR, MOR และ MRR
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของ BBL มีผลกับลูกค้าทุกประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้:
• MLR (ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี – กู้ระยะยาว):
ปรับลดลงเหลือ 6.75% ลดลง 0.075%
• MOR (ลูกค้ารายใหญ่ – เบิกเกินบัญชี):
ปรับลดลงเหลือ 7.00% ลดลง 0.10%
• MRR (ลูกค้ารายย่อยชั้นดี):
ปรับลดลงเหลือ 6.90% ลดลง 0.05%
การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงินให้กับภาคธุรกิจและประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่ ถือเป็นสัญญาณผ่อนคลายที่สำคัญของระบบการเงินไทย
หั่นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3–36 เดือน สูงสุด 0.30%
ในฝั่งเงินฝาก ธนาคารกรุงเทพปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกช่วงอายุลงระหว่าง 0.15–0.30% โดยมีรายละเอียดดังนี้:
3 เดือน 0.85% -0.15%
4 เดือน 1.30% -0.20%
6 เดือน 0.90% -0.20%
7 เดือน 1.35% -0.30%
12 เดือน 1.25% -0.20%
24 เดือน 1.55% -0.15%
36 เดือน 1.55% -0.20%
การลดดอกเบี้ยฝั่งเงินฝากสะท้อนถึงความต้องการลดต้นทุนทางการเงินของธนาคาร ในขณะที่กระแสเงินฝากระยะสั้นยังคงสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดตราสารหนี้มีผลตอบแทนต่ำ
การที่ BBL ขยับลดดอกเบี้ยนำร่อง อาจสร้างแรงกดดันให้ธนาคารพาณิชย์อื่นทยอยปรับตามในระยะอันใกล้ โดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงทรงตัวที่ระดับสูงแต่เศรษฐกิจในประเทศเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
หากการปรับลดดอกเบี้ยเกิดในวงกว้าง อาจช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนบางส่วน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ฝากเงินที่ต้องการผลตอบแทนคงที่
ประเด็นน่าจับตาธนาคารอื่นจะตอบสนองอย่างไร? และธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีท่าทีอย่างไรต่อการเคลื่อนไหวของดอกเบี้ยในระบบเช่นนี้?