Apple ออกหุ้นกู้ 4.5 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดคำสั่งซื้อทะลัก 1 หมื่นล้าน
Apple เปิดขายหุ้นกู้ครั้งแรกในรอบ 2 ปี มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นคืนและชำระหนี้ ขณะนักลงทุนแห่จองทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดตราสารหนี้สหรัฐที่คึกคักผิดปกติ
Apple Inc. บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ประกาศระดมทุนผ่านการเสนอขายพันธบัตรชุดใหม่ มูลค่ารวม 4.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ครั้งแรกของบริษัทในรอบ 2 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อนำเงินไปใช้ใน 2 วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ การซื้อหุ้นคืน (share repurchase) และการชำระคืนหนี้สินที่ครบกำหนด
รายละเอียดของพันธบัตรที่เสนอขายในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 4 ชุด ได้แก่
• อายุ 3 ปี มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
• อายุ 5 ปี มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
• อายุ 7 ปี มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
• อายุ 10 ปี มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
การออกหุ้นกู้เกิดขึ้นในจังหวะที่ Apple มีหนี้สินรอการชำระรวมกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน 2568 ทำให้การระดมทุนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการบริหารจัดการหนี้และเงินสดในเชิงรุก
แหล่งข่าวระบุว่า ความต้องการซื้อพันธบัตรของ Apple สูงกว่าที่คาดการณ์ โดยยอดคำสั่งซื้อพุ่งถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกินเท่าตัวจากจำนวนที่เสนอขาย สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งทางการเงินของ Apple
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความต้องการลงทุนในพันธบัตรคุณภาพสูงยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินและเศรษฐกิจโลก
นอกจาก Apple ตลาดหุ้นกู้สหรัฐฯ ยังเริ่มต้นเดือนพฤษภาคมอย่างคึกคักเป็นพิเศษ โดยมีบริษัทระดับ Investment Grade อีกอย่างน้อย 8 รายเสนอขายพันธบัตรใหม่ อาทิ Comcast, DTE Electric และ General Motors ส่งผลให้มูลค่าการเสนอขายรวมต้นสัปดาห์พุ่งถึง 35,000 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ภาคเอกชนเร่งเสนอขายพันธบัตร ได้แก่ ส่วนต่างผลตอบแทน (spread) ระหว่างพันธบัตรเอกชนและพันธบัตรรัฐบาลที่ดีขึ้น ภายหลังการประกาศนโยบายภาษีและการอัดฉีดมาตรการกระตุ้นจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
บรรดาผู้ออกตราสารหนี้จึงเร่งปิดดีลให้ทันก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนั้น โดยเฉพาะท่าทีของเฟดต่อทิศทางดอกเบี้ยในครึ่งหลังของปี.