ธุรกิจไทย-เวียดนามบูมบนแอปแชท แม้ค่าแรงต่ำ แต่สร้างรายได้สูงติดอันดับโลก

ธุรกิจไทย-เวียดนามบูมบนแอปแชท แม้ค่าแรงต่ำ แต่สร้างรายได้สูงติดอันดับโลก

มาร์ก เอลเลียต ซักเคอร์เบิร์กได้ส่งข้อความผ่านFacebook พูดการใช้social ที่ประเทศไทยและเวียดนามยังคงมีค่าแรงเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว กลับเกิดปรากฏการณ์น่าสนใจในวงการธุรกิจดิจิทัล เมื่อพบว่าธุรกิจจำนวนมากในทั้งสองประเทศหันมาใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความเป็นช่องทางหลักในการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้า รับออเดอร์ หรือปิดการขาย

รายงานล่าสุดระบุว่า ประเทศไทยและเวียดนามติดอันดับ 10–11 ของประเทศที่มีรายได้จากบริการส่งข้อความมากที่สุดในโลก แม้ว่า GDP ของทั้งสองประเทศจะอยู่เพียงในกลุ่ม 30 อันดับแรกก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจในประเทศกำลังพัฒนาใช้แอปแชทอย่างแพร่หลายคือ “ต้นทุนแรงงานที่ต่ำ” ซึ่งทำให้สามารถจ้างแรงงานดูแลลูกค้าแบบเรียลไทม์ได้โดยไม่กระทบกำไร แต่รูปแบบนี้ยังไม่สามารถใช้ได้ในประเทศพัฒนาแล้ว ที่ค่าแรงสูงเกินกว่าจะจ้างพนักงานตอบแชทตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI กำลังถูกคาดหวังว่าจะเข้ามาเปลี่ยนเกม โดยสามารถช่วยให้ธุรกิจในประเทศพัฒนาแล้วใช้ระบบแชทในการให้บริการลูกค้าแบบอัตโนมัติ ซึ่งอาจช่วยให้โมเดลธุรกิจนี้ขยายไปได้ในวงกว้างทั่วโลกในอนาคต

ปรากฏการณ์ดังกล่าวตอกย้ำความสำคัญของการปรับตัวทางเทคโนโลยี และแสดงให้เห็นว่าประเทศที่มีค่าแรงต่ำสามารถกลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ได้ หากใช้เครื่องมือดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ