คปภ.เปิดโครงการ “คปภ. เพื่อชุมชนปี 4” ยิ่งใหญ่ เหนือสุดใต้-ตะวันออกสุดตะวันตก

เลขาธิการ คปภ. นำทัพประกันภัยลงพื้นที่วิสาหกิจชุมชนบ้านปลายบางจังหวัดนนทบุรี เปิดโครงการคปภ. เพื่อชุมชนปี 4” ยิ่งใหญ่ ถอดบทเรียนด้านประกันภัย จาก 5 ชุมชน ภายใต้แนวคิดเหนือสุดใต้ ตะวันออกสุดตะวันตกพร้อมช่วยเหลือด้านประกันภัยและเปิดเวทีเพิ่มการมีส่วนร่วมรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะด้านประกันภัยจากชาวชุมชนทุกระดับ

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้เปิดตัวโครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 4” เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 วิสาหกิจชุมชนบ้านปลายบาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดยตนพร้อมด้วยนายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นางบงกช บวรฤกษ์ นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย นายนิคม จันคง นายกสมาคมการค้าผู้สำรวจภัยไทย นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต นางวราภรณ์ วงศ์พินิจวโรดม นายพัฒนศักดิ์ มงคลปัญญา ผู้บริหารกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ลงพื้นที่เปิดตัวโครงการ คปภ. เพื่อชุมชนปี 4 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านประกันภัยเชิงรุกให้แก่ประชาชน ภายใต้แนวคิดเหนือสุดใต้ ตะวันออกสุดตะวันตกโดยได้รับเกียรติจากนางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และนายวัชรเดช เกียรติชานน นายอำเภอบางกรวย กล่าวต้อนรับ


โครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปีกำหนดเป้าหมายลงพื้นที่ 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ชุมชนบ้านแหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ชุมชนนาอ้อ อำเภอเมือง จังหวัดเลย ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช และชุมชนปางห้า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยรูปแบบเป็นการถอดบทเรียนด้านประกันภัยที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละชุมชน รวมทั้งการเข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของชุมชนเพื่อนำระบบประกันภัยเข้าไปเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัยแบบครบวงจร มีการนำเสนอข้อมูลด้านประกันภัยที่ประชาชนประสบหรือให้ความสนใจในช่วงเวลานั้น เช่น การประกันภัยไวรัสโคโรนา (Covid-19) การประกันภัยอัคคีภัยที่มีความคุ้มครองจากภัยน้ำท่วมในช่วงเวลาหน้าฝน หรือการประกันภัยไข้เลือดออกที่มักจะเกิดขึ้นภายในชุมชน เป็นต้น 


นอกจากนี้ ในการลงพื้นที่แต่ละชุมชนจะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็น และข้อเสนอแนะจากชาวชุมชนเกี่ยวกับความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยในรูปแบบต่าง เพื่อที่สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย จะได้พัฒนากรมธรรม์ประกันภัยให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของชุมชนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนให้ช่วยคิด พัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดส่งต่อองค์ความรู้ด้านการประกันภัย รวมทั้งร่วมเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างความต้องการในระดับพื้นที่ (Bottom-Up) และทิศทางในภาพรวมของระดับประเทศ (Top-Down) 


เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า โครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 4 จะมีการบูรณาการอย่างใกล้ชิดกับภาคธุรกิจประกันภัย ตลอดจนกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย และกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ที่จะร่วมลงพื้นที่ในชุมชนต่าง ตามภารกิจในโครงการฯ รวมทั้งจะมีทีมงานของสำนักงาน คปภ. ในรูปแบบ Insurance Mobile Unit หรือศูนย์บริการประชาชนด้านการประกันภัยเคลื่อนที่แบบครบวงจร เพื่อให้ข้อมูล รับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ผ่าน “Mobile Complaint Unit” หรือศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยเคลื่อนที่ให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยแบบเคาะประตูบ้านประชาชนในชุมชน ตลอดจนช่วยเหลือด้านประกันภัยเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่ออุตสาหกรรมประกันภัยอย่างยั่งยืนต่อไป ในขณะเดียวกันได้มีการถ่ายทำเป็นรายการซีรีย์คปภ. เพื่อชุมชนเพื่อนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ทำให้เกิดการเรียนรู้ด้านประกันภัยในวงกว้างอีกด้วย


โครงการ คปภ. เพื่อชุมชน ปี 4” เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนในชุมชนต่าง ของประเทศ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัย เกิดความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและคุณประโยชน์ของการประกันภัย สามารถใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สินให้กับตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของชุมชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ส่งผลให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไปเลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย