นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย เผยว่า ทิศทางและแผนงานของสมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ปี 2568 ว่าจะมุ่งส่งเสริมและเพิ่มจำนวนนักวางแผนการเงิน
CFP® และเดินหน้าให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้
ถึงความสำคัญของการวางแผนการเงินให้กับคนไทยทุกช่วงวัย
โดยเริ่มตั้งแต่ระดับอุดมศึกษาไปจนถึงวัยเกษียณ ผู้ที่มีรายได้ทุกคน
จำเป็นต้องวางแผนการเงิน เพราะทุกอย่างรอบตัวล้วนเกี่ยวข้อง กับเงินในกระเป๋าของเราทั้งสิ้น
ตั้งแต่เกิดแก่เจ็บตาย ค่าทำคลอด ค่าเทอมการศึกษา ซื้อบ้าน ซื้อรถ แต่งงาน มีลูก
จนถึงการเตรียมเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนในชีวิตอื่นๆ
ความเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ความไม่แน่นอนในการงานและธุรกิจ จนถึงบั้นปลายชีวิต
ทุกอย่างต้องใช้เงิน ขณะที่ราคาสินค้าและบริการต่างๆ ล้วนปรับตัวขึ้นทุกปี
รวมทั้งราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสี่
โดยข้อมูลอ้างอิงจากดัชนีราคาที่อยู่อาศัยและดัชนีราคาที่ดิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
ย้อนหลัง 10 ปี พบว่าปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 28-46 %
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า ประเทศไทยหรือคนไทย
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า
นักวางแผนการเงินมีไว้สำหรับให้คนรวยเท่านั้น ส่งผลให้ในอดีตมีการใช้บริการนักวางแผนการเงินน้อยมาก
แม้ปัจจุบันจะมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นก็ตาม เพราะในความเป็นจริงแล้ว
ผู้ที่มีรายได้ทุกคน จำเป็นต้องมีการวางแผนทางการเงิน ทั้งวางแผนการใช้จ่าย
วางแผนการออม วางแผนป้องกันความไม่แน่นอน วางแผนการลงทุน วางแผนภาษี
และวางแผนเพื่อชีวิตยามเกษียณ เพราะในทุกช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิตจำเป็นต้องใช้เงินทั้งนี้
จากผลสำรวจผู้ใช้บริการใน 15 ประเทศทั่วโลก พบว่า 84%
ของลูกค้าที่ใช้บริการ เห็นว่าการใช้บริการกับนักวางแผนการเงิน CFP
ให้ประโยชน์คุ้มค่าเกินกว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้นักวางแผนการเงิน
นอกจากนี้ ยังมีความเข้าใจผิดว่า นักวางแผนการเงินมีผลประโยชน์แฝง
ไม่ได้ให้คำแนะนำที่ควรจะเป็น แต่ต้องการเพียง “ขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน”
ที่แนะนำเท่านั้น ซึ่งในความจริงแล้ว 98%ของลูกค้าที่ได้รับคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินCFP ไว้ใจว่า
นักวางแผนการเงิน CFP คำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
เพื่อให้ลูกค้าได้ผลตอบแทนบรรลุตามเป้าหมายของแผนการเงินที่วางไว้
โดยเรื่องนี้ถือเป็นจรรยาบรรณที่สำคัญและกำหนดไว้ เป็นข้อแรก
ที่นักวางแผนการเงินทุกคนต้องยึดปฏิบัติ ที่ต้องให้คำแนะนำในการวางแผนการเงิน
โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
การคิดค่าธรรมเนียมของนักวางแผนการเงินว่า มี 4 แบบ
ดังนี้ 1.Fixed fee คิดค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเงินต่อแผนต่อปี 2.ไม่มีค่าธรรมเนียม
แต่จะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าลงทุนหรือซื้อจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ 3.คิดค่าธรรมเนียมแบบผสม
เช่น คิดค่าแผน 5,000 บาทต่อปีจากลูกค้าและได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมของผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าลงทุนหรือซื้อจากบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ 4.คิดค่าธรรมเนียมตามมูลค่าทรัพย์สิน เช่น 3%
ของมูลค่าทรัพย์สินที่แนะนำต่อปี
ปัจจุบันนักวางแผนการเงิน
CFP มีเครือข่ายสมาชิกอยู่ใน 26 ประเทศทั่วโลก
ณ 31 ธ.ค.67 มีจำนวนนักวางแผนการเงิน CFP
ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 230,648 คน
โดยมีอัตราการเติบโต 3.1% หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ 6,878 คน ขณะที่ประเทศไทยมีนักวางแผนการเงิน CFP 703 คน
มีอัตราการเติบโตสูงถึง 18.5%เพิ่มขึ้นสุทธิ 110 คน โดยเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก
เพราะคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจและเรียนรู้เรื่องการวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น
ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดี ทั้งนี้ ประเทศไทยมีจำนวนนักวางแผนการเงิน CFP
703 คน สูงเป็นอันดับที่ 19 จาก 26 ประเทศ ตามหลังสิงคโปร์ที่อยู่อันดับที่ 18 ที่มีนักวางแผนการเงิน
CFP 887 คน และมาเลเซีย ที่อยู่อันดับที่ 14 มีนักวางแผนการเงิน CFP 2,615 คน ขณะที่สหรัฐอเมริกา มีจำนวนนักวางแผนการเงิน CFP
สูงสุดเป็นอันดับ 1 มีจำนวน 103,093 คน จะเห็นว่า ประเทศไทยยังต้องการนักวางแผนการเงิน CFP อีกมากเมื่อเทียบจำนวนนักวางแผนการเงิน CFP กับสัดส่วนประชากรไทย
เป็นโอกาสของคนที่มองหาอาชีพที่มีความมั่นคง
มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ไม่มีเพดานจำกัด สามารถทำควบคู่กับงานประจำ และไม่มีกำหนดอายุเกษียณ