SIC เตรียมเปิดจอง IPO 100 ล้านหุ้น เข้า mai ปลายเดือนนี้




บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SIC’ บริษัทชั้นนำของโลกด้านวิจัย ออกแบบ และพัฒนาแบบวงจรรวม (Integrated Circuit Design) หรือไมโครชิพ (Microchip) สำหรับอุปกรณ์ระบุรหัสประจำตัวสัตว์ด้วยคลื่นวิทยุ(RFID Animal Identification) เผยแผนเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรก (IPO)จำนวน 100,000,000 หุ้น และเตรียมเปิดจองซื้อหุ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ตั้งเป้าระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจไมโครชิพ ต่อยอดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลักให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในตลาดRFID สำหรับปศุสัตว์ ในอีก ปีข้างหน้า

นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SIC’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้น ในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ณ ขณะนี้ บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 150 ล้านบาท โดยมีบริษัทฟินเน็กซ์ แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

SIC เป็นผู้ประกอบการไทยที่แข่งขันกับยักษ์ใหญ่ระดับโลก ดำเนินธุรกิจออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์วงจรรวมเต็มรูปแบบ หรือไมโครชิพ ซึ่งสินค้าของบริษัทสามารถแบ่งได้ กลุ่มหลัก คือ 1) สำหรับระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ (Immobilizer)  2) สำหรับลงทะเบียนสัตว์ (Animal Tag) 3) สำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ (Access Control) และระบบการอ่านข้อมูล (Interrogator) ซึ่งล้วนแต่มีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง  โดย SIC เป็นบริษัทไทยรายเดียวที่สามารถพัฒนาไมโครชิพสำหรับอุปกรณ์ระบุรหัสประจำตัวสัตว์ด้วยคลื่นวิทยุได้สำเร็จ (RFID Animal Identification) และในปัจจุบันเป็นผู้นำในตลาดไมโครชิพสำหรับอุปกรณ์ระบุรหัสประจำตัวสัตว์ด้วยคลื่นวิทยุในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค  

 ในระยะเวลา ปีที่ผ่านมา SIC เป็นบริษัทในธุรกิจไมโครชิพที่ยืนหยัดแข่งขันในเวทีโลกด้วยรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยมีโมเดลธุรกิจแบบใหม่ที่จะเป็นผู้ออกแบบไมโครชิพ และเป็นเจ้าของเทคโนโลยี จากนั้นจะว่าจ้างผู้ผลิตรายอื่นให้ผลิตไมโครชิพ ซึ่งข้อดีของโมเดลแบบนี้ คือ บริษัทมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและบริหารโรงงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า โดย SIC จะเน้นถือครองทรัพย์สินทางปัญญา

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของ SIC มาจากการขายไมโครชิพสำหรับระบบกุญแจสำรองอิเลกทรอนิกส์ยานยนต์ ประมาณ 25-38% ไมโครชิพสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ 33-42% และไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ และระบบการอ่านข้อมูล 27-32%

SIC มีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคต ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมากในอนาคตจากโอกาสทางธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve – Smart electronics) โดยบริษัทฯ ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อแข่งขันในตลาดโลก และเป็นผู้นำเทรนด์ในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอนาคตในอีก ปี ข้างหน้า ด้วยการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองกับเทรนด์ใหม่ๆ เหล่านั้น

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ระหว่างปี 2560-2562 มีรายได้รวม เท่ากับ 310.71 ล้านบาท 377.04 ล้านบาท และ 308.80 ล้านบาท ตามลำดับ โดยไตรมาสแรกของปี 2563 มีรายได้ที่ 95.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 72.85 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็นร้อยละ 30.70% ในขณะที่กำไรสุทธิในปี 2560 ถึงปี 2562 กำไรสุทธิเท่ากับ 38.66 ล้านบาท 51.68 ล้านบาท และ 24.46 ล้านบาท ตามลำดับ โดยไตรมาสแรกของปี 2563 มี กำไรสุทธิ เท่ากับ 15.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.39 ล้านบาท ของงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็น 552.3% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรสุทธิในไตรมาสล่าสุด มาจากรายได้ในกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ที่เติบโต และรายได้ในกลุ่มระบบกุญแจสำรองฯ ที่เริ่มกลับมาเนื่องจากคลายกังวลเรื่องสงครามการค้า 

“SIC มีแผนที่ขยายธุรกิจไมโครชิพอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในตลาด RFID สำหรับปศุสัตว์ ในอีก ปี ข้างหน้า พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะต่อยอดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลักของตนเองและร่วมกับพันธมิตรธุรกิจพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย โดย SIC คาดว่าจะมีการเติบโตของธุรกิจเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี” นายมานพ กล่าว