ยูโอบี เผยผลวิจัย GEN Z เข้าลงทุนหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้น 100% ชอบความรู้ข้อมูลเพิ่มเติมและยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่าช่วงวัยอื่นๆ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการซื้อประสบการณ์และการลงทุนเพิ่มขึ้น
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย รายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน หรือ ASEAN Consumer Sentiment Study (ACSS) ประจำปี 2024 เผยว่าผู้บริโภคชาวไทยมากกว่า 2 ใน 5 (ร้อยละ 42) ใช้จ่ายกับสิ่งของจำเป็นมากขึ้น ในขณะที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์และสนใจลงทุนเพิ่มมากขึ้น
นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่าคนรุ่นใหม่สร้างความสมดุลระหว่างการใช้จ่ายกับการออมและการลงทุน แม้การใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคในประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นออมเงินอย่างแข็งแกร่ง โดยร้อยละ 57 ของผู้บริโภคระบุว่ามีเงินสำรองฉุกเฉินที่รองรับค่าใช้จ่ายอย่างน้อยสามเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคอาเซียนที่ร้อยละ 54 สิ่งที่น่าสังเกตคือ คนรุ่นใหม่ (Gen Y และ Gen Z) ให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่งคั่งผ่านการออมและการลงทุนมากกว่าคนในช่วงอายุที่มากกว่า
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยังเปิดเผยว่าบัญชีเงินฝากของกลุ่ม Gen Z เพิ่มขึ้นร้อยละ 52 ในขณะที่จำนวนบัญชีเงินฝากที่ถือครองโดยกลุ่ม Gen Y เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้จำนวนนักลงทุน Gen Z เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 129 ในขณะที่นักลงทุน Gen Y เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 โดยเม็ดเงินลงทุนโดยคนรุ่นใหม่ในการลงทุนตรงในต่างประเทศเติบโตขึ้นร้อยละ10 และการลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุนที่จดทะเบียนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 อย่างไรก็ตาม แม้สัดส่วนของนักลงทุน GEN Z เข้ามาลงทุนในปริมาณมาก แต่สัดส่วนมูลค่าการลงทุนยังถือว่าค่อนข้างน้อย
นายยุทธชัย กล่าวเสริมอีกว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่เห็นคนรุ่นใหม่ชาวไทยจำนวนมากมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางการเงินผ่านการออมและการลงทุน แต่ยังคงจำเป็นต้องให้การสนับสนุนเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ เช่น ประกันสุขภาพ เป็นต้น เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างให้คนรุ่นใหม่สามารถดำเนินชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ พร้อมทั้งสร้างความยั่งยืนทางการเงินควบคู่กัน” นอกจากนี้ กลุ่มวัย GEN Z ถือเป็นกลุ่มแรกๆที่เข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี เนื่องมาจากการหาความรู้ข้อมูลเพิ่มเติมและศึกษาแนวโน้มในตลาดทำให้เริ่มลงทุนในกลุ่มที่มีอนาคต ทั้งยังมีการยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่าช่วงวัยอื่นๆอีกด้วย
การศึกษาในครั้งนี้จัดทำขึ้นร่วมกับบริษัท Boston Consulting Group โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม สามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในปัจจุบันได้