บริษัทเอสซีจี
แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (“SCGP”) ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์
จากสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 โดยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
หลังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในบางประเทศและจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น
IPO และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวิชาญ
จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงในบางประเทศ
และเริ่มเห็นการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมต่าง
ๆ ได้อีกครั้ง โดยประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม SCGP ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
COVID-19 อย่างใกล้ชิด
หลังจากที่ภาคธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ของ SCGP รายได้จากการขายยังคงมีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าท่ามกลางปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 โดยมีรายได้จากการขาย 24,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค
อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซียที่ขยายตัวได้ดี
อีกทั้ง SCGP ยังสามารถขายสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์และทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะจากพฤติกรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่และการซื้อสินค้าออนไลน์
ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยในการผลิตและการขนส่งบรรจุภัณฑ์
ซึ่งลูกค้าให้ความใส่ใจอย่างมากในสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ SCGP ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของการส่งออกและการควบรวมกิจการของ PT
Fajar Surya Wisesa Tbk และบริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย)
จำกัด ด้วย ทั้งนี้ SCGP ได้วางแผนบริหารจัดการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารซัพพลายเชน
จึงสามารถรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี สำหรับการขยายกิจการในปีนี้
SCGP อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าซึ้อหุ้นข้างมากของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (หรือ “SOVI”) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในด้านบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในประเทศเวียดนาม
ธุรกรรมนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ SCGP ให้มากยิ่งขึ้นด้วยการบูรณาการธุรกิจในภูมิภาคและขยายฐานลูกค้าที่เชื่อมโยงถึงผู้บริโภคซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
SCGP มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย
สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยมีฐานลูกค้าจากหลายหลายธุรกิจและอุตสาหกรรม
อาทิ อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม
ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงมีฐานการผลิตในหลายประเทศของภูมิภาคอาเซียน
จึงสามารถบริหารความเสี่ยงในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจได้ดี
ส่วนความคืบหน้าการนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ปัจจุบัน SCGP ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยขณะนี้
SCGP ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้มีการเตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ต่าง
ๆ ร่วมกัน เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น
IPO และนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
******************************************
ข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด
(มหาชน) (SCGP)
ดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในธุรกิจของเอสซีจีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่เติบโตจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีเพิ่มขึ้น (Consumer
Growth) ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์
และประเทศมาเลเซีย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ SCGP
ยังมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุหลากหลายประเภท
(Multi-materials)
ทั้งกระดาษและพอลิเมอร์ พร้อมการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (Packaging
Solutions Provider) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ
พร้อมการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชั้นนำระดับสากลได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร
หมายเหตุ
การแจกจ่ายเอกสารฉบับนี้ไปยังประเทศหรือเขตอำนาจรัฐอื่น
ๆ นอกจากประเทศไทย อาจเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
ผู้ที่ได้รับเอกสารฉบับนี้ควรศึกษาและปฏิบัติตามข้อจำกัดทางกฎหมายนั้น ๆ
เอกสารฉบับนี้ไม่ได้ถูกจัดทำเพื่อการเผยแพร่ การตีพิมพ์ หรือการแจกจ่าย
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในหรือไปยังสหรัฐอเมริกา
เอกสารฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อแจ้งข้อมูลเท่านั้น
และไม่ถือเป็นการเสนอขายหรือการชักชวนให้เข้าซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ
และไม่มีการเสนอขายหรือซื้อหลักทรัพย์ในประเทศหรือเขตอำนาจรัฐใดที่การเสนอขาย
การชักชวนการเสนอซื้อ หรือการขายหลักทรัพย์นั้นขัดต่อกฎหมาย
หลักทรัพย์ที่กล่าวถึงในเอกสารฉบับนี้ยังไม่ได้นำไปจดทะเบียนภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา
ค.ศ.1933
รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม ("กฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา")
หรือกฎหมายของรัฐใด ๆ ในสหรัฐอเมริกา และจะไม่มีการเสนอขายหรือการขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในสหรัฐอเมริกา
เว้นแต่จะได้มีการจดทะเบียนหรือได้รับยกเว้นการจดทะเบียนภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา
และกฎหมายของรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้
ไม่มีความประสงค์ที่จะจดทะเบียนไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดหรือว่าทั้งหมดของการเสนอขายหรือหลักทรัพย์ใด
ๆ ที่กล่าวถึงในเอกสารฉบับนี้ในสหรัฐอเมริกา
หรือดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในสหรัฐอเมริกา
ข้อความในเอกสารฉบับนี้ที่เป็นการคาดการณ์ของตลาดหรือแนวโน้มอุตสาหกรรมนอกเหนือจากที่เป็นข้อเท็จจริงในอดีต
เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองในปัจจุบัน สมมติฐาน การประมาณการ
อันมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน จึงมิได้เป็นการรับประกันว่าเหตุการณ์หรือผลลัพธ์ที่คาดการณ์นั้นจะเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานหรือปัจจัยต่าง ๆ
อาจทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงแตกต่างจากการคาดการณ์ดังกล่าว
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (“SCGP”) ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 โดยคาดว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในบางประเทศและจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นายวิชาญ
จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงในบางประเทศ
และเริ่มเห็นการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมต่าง
ๆ ได้อีกครั้ง โดยประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม SCGP ยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
COVID-19 อย่างใกล้ชิด
หลังจากที่ภาคธุรกิจเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการ
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ของ SCGP รายได้จากการขายยังคงมีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าท่ามกลางปัจจัยลบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยมีรายได้จากการขาย 24,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซียที่ขยายตัวได้ดี อีกทั้ง SCGP ยังสามารถขายสินค้าและบริการได้ตอบโจทย์และทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากพฤติกรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรี่และการซื้อสินค้าออนไลน์ ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยในการผลิตและการขนส่งบรรจุภัณฑ์ ซึ่งลูกค้าให้ความใส่ใจอย่างมากในสถานการณ์นี้ นอกจากนี้ SCGP ได้รับปัจจัยบวกจากการเติบโตของการส่งออกและการควบรวมกิจการของ PT Fajar Surya Wisesa Tbk และบริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ด้วย ทั้งนี้ SCGP ได้วางแผนบริหารจัดการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารซัพพลายเชน จึงสามารถรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี สำหรับการขยายกิจการในปีนี้ SCGP อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าซึ้อหุ้นข้างมากของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (หรือ “SOVI”) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในด้านบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในประเทศเวียดนาม ธุรกรรมนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ SCGP ให้มากยิ่งขึ้นด้วยการบูรณาการธุรกิจในภูมิภาคและขยายฐานลูกค้าที่เชื่อมโยงถึงผู้บริโภคซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง
SCGP มีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย
สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยมีฐานลูกค้าจากหลายหลายธุรกิจและอุตสาหกรรม
อาทิ อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องดื่ม
ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงมีฐานการผลิตในหลายประเทศของภูมิภาคอาเซียน
จึงสามารถบริหารความเสี่ยงในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจได้ดี
ส่วนความคืบหน้าการนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ปัจจุบัน SCGP ได้รับอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ จากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยขณะนี้ SCGP ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้มีการเตรียมความพร้อมและอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากสถานการณ์โดยรวมมีความชัดเจนและเหมาะสม SCGP ก็พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO และนำหุ้นของ SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด
(มหาชน) (SCGP)
ดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เป็นหนึ่งในธุรกิจของเอสซีจีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่เติบโตจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีเพิ่มขึ้น (Consumer
Growth) ทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศฟิลิปปินส์
และประเทศมาเลเซีย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ SCGP
ยังมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุหลากหลายประเภท
(Multi-materials)
ทั้งกระดาษและพอลิเมอร์ พร้อมการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (Packaging
Solutions Provider) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ
พร้อมการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชั้นนำระดับสากลได้อย่างครอบคลุมและครบวงจร