CFARM เดินสายโรดโชว์ 7 จังหวัด เตรียมขาย IPO 149 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า mai


 


บมจ.ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) หรือ CFARM ธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา ผนึกบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เดินสายโรดโชว์พบนักลงทุนก่อนเสนอขายหุ้นไอพีโอ(IPO) จำนวน 149 ล้านหุ้น แก่นักลงทุน 7 จังหวัดทั่วประเทศ 7 – 17 พ.ค.นี้ คาดเข้าระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ maiภายในไตรมาส 2/2567 มั่นใจนักลงทุนให้ความสนใจ พื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง

 

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำ CFARM เดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ในระหว่างวันที่ 7 – 17 พ.ค.67 เพื่อนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุน จังหวัดใหญ่ ได้แก่ ได้แก่ ชลบุรี บุรีรัมย์ ขอนแก่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา และ และปิดท้ายโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ ตามลำดับ หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) อนุญาตให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เรียบร้อยแล้ว

 

นายสุริยา ธรรมธีระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน CFARM มีทุนจดทะเบียน 431 ล้านบาท เตรียมเพิ่มทุนอีก 149 ล้านบาท ราคาพาร์หุ้นละ บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 580 ล้านบาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 149 ล้านหุ้น สัดส่วนหุ้นที่เสนอขายคิดเป็น 25.69% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และจะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในหมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

 

สำหรับวัตถุประสงค์หลักในการระดมทุน เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ นอกจากนี้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ และคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน

 

ด้านนายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM กล่าวว่า การโรดโชว์ให้นักลงทุนระหว่างวันที่ 7 – 17 พฤษภาคมนี้ บริษัทจะนำเสนอข้อมูลให้นักลงทุน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในลักษณะการประกอบธุรกิจ โดยมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะนอกจากธุรกิจจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ในอนาคตยังมีแผนขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ที่สำคัญสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้ผู้ถือหุ้น

 

สำหรับผลการดำเนินงาน ปีย้อนหลัง ปี 2564 - ปี 2566 เท่ากับ 163.48 ล้านบาท 228.70 ล้านบาท และ 240.99 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นในปี 2564 เท่ากับ 65.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.89% และในปี 2566 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เท่ากับ 12.28 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.37% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า  โดยมีกำไรสุทธิในปี 2564 และปี 2565 บริษัทมีขาดทุน 38.08 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ จำนวน 21.97 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็น(23.30%)  และ 9.60% ของรายได้รวมตามลำดับ สำหรับปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 30.49 ล้านบาท คิดเป็น 12.65% ของรายได้รวม ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่ากับ 8.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38.80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า