KKP จัดเสวนา เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้

KKP จัดเสวนา เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้

นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสำนักสื่อสารองค์กรและการตลาด กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) กล่าวในงานสัมมนา KKP Financial Talk: Money Master #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 ทางกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ได้มีการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยว่าประชากรไทยวัย 40-50 ปี ปัจจุบันมีอยู่ 10 ล้านคน หรือคิดเป็น 15% ของประชากรไทย และกลุ่มคนที่อายุ 35-55 ปี ก็มีอยู่ประมาณ 20 ล้านคน หรือคิดเป็น 30% ของประชากร ดังนั้นในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า 


เมื่อรวมคนเตรียมเกษียณกับคนที่เกษียณแล้วจะกลายเป็นกว่า 40% ของทั้งประเทศ สะท้อนโครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมสูงวัย ปัญหาสังคมสูงวัยคือ ขนาดเศรษฐกิจจะเล็กลง (คนกินคนใช้น้อยลง) จำนวนแรงงานลดลง สร้างภาระทางการคลังมากขึ้น ในภาวะเช่นนี้ ‘เดอะแบก’ หรือประชากรกลุ่มที่กำลังมีลูกเล็กและพ่อแม่เริ่มแก่ชรา จะเหนื่อยขึ้นกับภาระที่ต้องรับผิดชอบ แม้กระทั่งกลุ่มคนเดอะแบกที่ไม่มีลูก ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะลอยตัวจากปัญหา เพราะหากไม่วางแผนทางการเงิน หรือขาดวินัยในการออม ก็มีโอกาสเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุให้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นปัญหาสำคัญได้โดยเฉพาะในยามเกษียณที่รายได้ที่เป็น active income หมดสิ้นลง


“คนรายได้มาก รายได้น้อย จะรวยจะจน สุดท้ายวัดกันที่ ‘อัตราการออม’ มากกว่า รายได้เยอะกว่าใช่ว่าสุดท้ายจะมีความมั่งคั่งมากกว่า ถ้าไม่รู้จักบริหารการใช้จ่าย แต่ถึงเงินเก็บจะยังน้อย ก็เริ่มออมและลงทุนได้ เวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้นลงทุน คือตอนนี้ หรือจริงๆ อาจจะเมื่อวาน เพราะยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งได้เปรียบ ด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น ที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ลงทุน ยังเป็นการเริ่มสร้างวินัยในการเก็บออม เป็นการเก็บไมล์สะสมประสบการณ์ สะสมความรู้ เมื่อถึงจุดที่เรามีเงินมาก เราก็ได้ประสบการณ์การลงทุนพร้อมที่จะตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การสร้างความมั่งคั่งสามารถเริ่มได้แม้จะมีเงินเก็บน้อย ผ่านการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนที่ถูกต้องเหมาะสม หากรอให้รวยก่อนค่อยลงทุน คือ คุณเริ่มช้ากว่าคนอื่น พลาดโอกาสไปมากกว่าคนอื่นแล้ว


ความรู้พื้นฐานทางการเงินนับเป็น ‘ทักษะชีวิต’ (Life skill) ที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานง่ายๆ อย่างการจดรายรับรายจ่าย การออมเงิน ไปจนถึงการวางแผนภาษี การลงทุนเพื่อความงอกเงย การบริหารจัดการหนี้ การบริหารความเสี่ยงเพื่อปกป้องความมั่งคั่ง และการรู้จักป้องกันตัวเองจากภัยทางการเงินรูปแบบต่างๆ ความรู้เหล่านี้เปลี่ยนชีวิตได้ จะไม่ทำให้เราเสียดาย ต้องมานั่งคิดว่ารู้งี้เรียนรู้ตั้งนานแล้ว” ดร.ณชากล่าว


นายถนอม เกตุเอม หรือ TaxBugnoms เจ้าของเพจให้คำแนะนำการวางแผนภาษีจัดการภาษี ได้เล่าประสบการณ์ของตนเองและสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจาก “ภาวะเดอะแบก” ของตนเองที่ต้องจ่ายค่าเทอมลูก และค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่

“หลักสำคัญคือการวางแผนชีวิต วางแผนการเงิน โดยจากการทำเพจ influencer ด้านการเงินพบว่าคนไทยสนใจเรื่องเงินมากขึ้น แต่มี 2 ปัญหาใหญ่คือ คนพยายามหาวิธีการที่ง่ายและเร็ว ซึ่งไม่มี และอีกปัญหาคือคนไม่เข้าใจว่าตัวเองต้องการอะไรและมีเป้าหมายการเงินอย่างไร สำหรับคำแนะนำคือการเริ่มต้นจากการสร้างสภาพคล่องของตัวเองในแต่ละเดือนซึ่งเป็นพื้นฐานการเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด เช็กตัวเองว่ามีเป้าหมายการเงินอย่างไร และจะต้องเตรียมเงินเท่าไหร่หรือเตรียมอย่างไร ตลอดจนการควบคุมสิ่งที่ควบคุมได้เช่น วินัยทางการเงิน การรักษาสภาพคล่อง การเก็บเงินตามเป้าหมาย และทำความเข้าใจสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ บางเรื่องอาจจะบรรเทาได้ด้วยการป้องกันความเสี่ยงเช่นทำประกัน แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้  เช่น โรคระบาด สถานการณ์เศรษฐกิจ ต้องทำความเข้าใจและเตรียมรับมือให้ดีที่สุด” นายถนอมกล่าว


ด้านนายปุริม รัตนเรืองวัฒนา(ปลื้ม) นักแสดง คนรุ่นใหม่ Gen Z ที่มีมุมมองการจัดการวางแผนการเงิน กล่าวว่า เดอะแบกในวัยของเขาน่าจะแบ่งได้ 4 ประเภท กลุ่มแรก แบกเศรษฐกิจ แม้อายุ 20 ต้นๆ แต่การทำมาหากินไม่ง่าย การลงทุนก็ยากขึ้นในภาวะเศรษฐกิจโตช้า กลุ่มที่ 2 แบกภาระหนี้สินจากรุ่นพ่อแม่ การบริหารจัดการเงินของคนกลุ่มนี้จึงต้องกันรายได้ที่มีไปช่วยแบ่งเบาภาระนั้น  กลุ่มที่ 3 แบกรายจ่ายสุขภาพพ่อแม่ที่มีลูกช้า คนเป็นลูกจึงต้องมีเงินพอจะดูแลเรื่องสุขภาพของพ่อแม่ และกลุ่มที่ 4 แบกญาติพี่น้องของรุ่นพ่อแม่ นี่คือเดอะแบกเจเนอเรชั่นที่เคยพบและมาปรึกษาเรื่องการวางแผนการเงิน

“ดังนั้นเดอะแบกในนิยามของผม จึงเป็นเรื่องที่หมายถึง รายรับของคนๆ หนึ่ง ถูกแบ่งออกไปเป็นรายจ่ายของใครอีกหลายคน และเราต้องสร้างสุขภาพการเงินของตัวเองให้ไว รู้ให้ไว เริ่มให้เร็ว และมีวินัย  เหมือนกับสร้างสุขภาพร่างกาย”  นายปุริมกล่าว


นอกจากนี้ ภายในงานสัมมนายังมีช่วงทอร์กโดยผู้เชี่ยวชาญของ KKP ในหัวข้อ “Money Plan : เรื่องเงินต้องวางแผน” และ “Trading Idea และการจัดพอร์ตยุคโลกรวน” รวมถึงมีเวิร์คชอปให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองลงมือทำกิจกรรมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการวางแผนการเงินการลงทุนที่มีประสิทธิภาพหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ “การเงิน 101” โดย KKP FinLit ที่มาให้คำแนะนำดีๆ ในการบริหารจัดการการเงินเบื้องต้น การออมเผื่อฉุกเฉิน การจัดการเรื่องสินเชื่อและหนี้สินต่าง ๆ “ลงทุนปังๆ” โดย KKP Dime ที่มีเรื่องราวของการลงทุนมาแนะนำ การตั้งเป้าหมายการลงทุน ตลอดจนการใช้เครื่องมือการลงทุนแบบสมัยใหม่ และ “สูตรการเงินเพื่ออนาคต” โดย  EDGE by KKP สำหรับผู้มองการณ์ไกล อยากมีเงินล้านแรก ตลอดจนเรียนรู้การวางแผนภาษี การเตรียมการเกษียณ และการใช้เครื่องมือการลงทุนสำหรับสร้างอิสรภาพทางการเงินและความมั่งคั่งอย่างมั่นคง


#KKP #เรื่องเงินอย่าปล่อยให้รู้งี้