“LTS” เตรียมเสนอขาย IPO ในตลาด mai จำนวน 55 ล้าน / หุ้น

บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ LST จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 55 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีบริษัท ออกพท์เอเซีย แคปิตอล จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายภัฏ ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LTS ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ติดตั้งและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงงานออกแบบระบบเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ Internet of Things (IOT) ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ.ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น (LTS) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 55 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.62 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้  โดยมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุปโภคบริโภคภายในไตรมาส 2/2567 โดยมี บริษัท ออพท์เอเซีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์

โดย LTS จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และขยายโชว์รูม รวมทั้งโกดังสินค้า เพื่อขยายกิจการให้มีความแข็งแกร่งขึ้น รองรับการขายสินค้าแก่โครงการขนาดใหญ่ของบริษัทฯ ได้แก่ สวนสาธารณะอัจฉริยะ โครงการ smart pole, โครงการ smart city, และ โครงการ smart street light ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากการการขายอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้งอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น โคมไฟฟ้า ไฟสปอตไลท์ ไฟเพื่อการตกแต่ง แก่ลูกค้า 3 กลุ่มหลักคือ 1) ลูกค้าสถาปนิกหรือผู้รับเหมา 2) ลูกค้าโครงการรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและเอกชนขนาดใหญ่ และ 3) ลูกค้าค้าส่งและค้าปลีก ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทาง พนักงานขายและ ช่องทางออนไลน์ 

สำหรับโครงสร้างรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในปี 2564 – 2566 พบว่า ในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 163 ล้านบาท และมีกำไร 0.72 ล้านบาท ส่วนใหญ่ร้อยละ 77.04 เป็นรายได้มาจากการจัดจำหน่าย

ให้กลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาหรือสถาปนิก ร้อยละ 12.28 จากการจำหน่ายลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ และร้อยละ 10.68 เป็นรายได้จากลูกค้า Retail/Wholesale  ในปี 2565 มีรายได้รวมประมาณ 232 ล้านบาทและกำไร 15.01 ล้านบาท  ร้อยละ 60.95 มาจากกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาหรือสถาปนิก ร้อยละ 37.48 มาจากลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ และร้อยละ 1.5  จากลูกค้า Retail/Wholesale  ขณะที่ในปี 2566 มีรายได้รวม 227 ล้านบาท และกำไร 31.43 ล้านบาท ร้อยละ 50.37 มาจากกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาหรือสถาปนิก ร้อยละ 40.83 มาจากลูกค้าโครงการขนาดใหญ่  ร้อยละ 8.45 จากลูกค้า Retail/Wholesale  โดยในปี 2566 เป็นปีแรกที่มีรายได้จากธุรกิจ IT Solutions เข้ามา ร้อยละ 0.36 ซึ่งกำไรของบริษัทในช่วง 2564 – 2566 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  สำหรับในปี 2567 บริษัทมี Backlog รับรู้รายได้ประมาณร้อยละ 100 ของรายได้ในปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าจะมาจากโครงการสวนสาธารณะอัจฉริยะซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องของบริษัท 

“บมจ.ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น (LTS) ดำเนินธุรกิจด้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและแสงสว่างมานานกว่า 14 ปี ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกกลุ่มทั้งจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และลูกค้าผู้ใช้งานทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯไม่เพียงพัฒนาด้านเทคโนโลยีเท่านั้น ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรอย่างมีคุณภาพ เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการเป็นศูนย์กลางการบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ขาย ติดตั้ง บริการหลังการขาย และออกแบบอุปกรณ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างการเติบโตทำกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยังได้ขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้และผลกำไรต่อลูกค้าของบริษัทฯอย่างยั่งยืน กับการลงทุนขยายธุรกิจทางด้าน IT Solution เพื่อต่อยอดจากธุรกิจเดิมอีกด้วย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไลท์อัพ โทเทิล โซลูชั่น (LTS) ระบุ

นอกจากนี้ LTS ได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาระบบการจัดการระบบไฟและควบคุมอุปกรณ์ Internet of Things (IOT) ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของบริษัทฯ ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีโครงการขนาดใหญ่เฉลี่ยปีละ 1-2 โครงการ เช่น โครงการไฟรั้วโซลาร์เซลล์ IOT จากกรมท่าอากาศยานในปี 2563, โครงการ AOT สนามบินสุวรรณภูมิ Phase II ในปี 2564, และโครงการสวนสาธารณะอัจฉริยะ ในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันยังมีโครงการ smart city โครงการ smartpole ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานเตรียมความพร้อม  โดยจากการที่ LTS เป็นหนึ่งในผู้นำด้านจำนวนการขายเสาไฟอัจฉริยะในประเทศไทย จะช่วยให้บริษัทฯ มีโอกาสเติบโตจากการขายสินค้ากลุ่ม smart pole สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการและการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอีกด้วย

LTS ยังมีการพัฒนาและต่อยอดใน ด้านความสามารถทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จากโครงการในอนาคตสำหรับ IT Solution ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาและจำหน่ายชุดคำสั่งต่าง ๆ ให้แก่องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย ภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมีการบริการแบบครบวงจร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ด้าน Subscription เป็นการซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมมาเพื่อจัดจำหน่ายต่อเพื่อให้ลูกค้าสมัครใช้บริการในรูปแบบรายเดือนหรือรายปี 2) Software Development เป็นการพัฒนาโปรแกรมขึ้นมาจากทีมงานของบริษัทซึ่งจะมีทั้งการขายสิทธิ์โปรแกรมให้แก่ลูกค้าหรือการให้เช่าใช้โปรแกรม และ 3) General Service เป็นบริการให้คำแนะนำในการใช้โปรแกรมที่บริษัทให้บริการ รวมถึงการบริการอบรมพนักงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรวมอยู่ด้วย

#LTS #ไลท์อัพโทเทิลโซลูชั่น #ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ #ติดตั้งและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง #IPO #mai #smartcity #ข่าวประจำวัน #Stockreview