ThaiBMA Q1/67 ออกหุ้นกู้ระยะยาวรวม 2.7 แสนลบ.

ThaiBMA Q1/67 ออกหุ้นกู้ระยะยาวรวม 2.7 แสนล้านบาท 93% เป็นหุ้นกู้ระดับ investment grade

.

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 มีมูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ อยู่ที่ 17 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนของพันธบัตรรัฐบาลกว่า 52% ประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ราว 3.7 แสนล้านบาท


มูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาว 207,126 ล้านบาท ซึ่งกว่า 93% เป็นหุ้นกู้ในกลุ่ม Investment grade โดยเมื่อเทียบมูลค่ากับช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ถือว่าละชอตัวลงกว่า 24% กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เงินทุนและหลักทรัพย์ และอาหารและเครื่องดื่ม 


เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีการปรับตัวลดลงในรุ่นอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดย Bond yield รุ่นอายุ 2 ปี ปรับลดลง 19 bps.  5 ปี ลดลง 21 bps. และ 10 ปี ลดลง 19 bps. จากสิ้นปี 2566 

มาอยู่ที่ 2.15%  2.24% และ 2.51% ตามลำดับ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567  


เส้นอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) ในไตรมาส 1 ปี 2567 อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชนรุ่นอายุ 5 ปี กลุ่มอันดับเครดิต AAA ถึง A ปรับลดลง 15-21 bps. จากสิ้นปี 2566 โดยอันดับเครดิต AAA ปรับลงมาอยู่ที่ 2.90%  AA ที่ 3.17% และ A ที่ 3.44% ณ สิ้นไตรมาส 1  ปี 2567 ขณะที่หุ้นกู้อันดับเครดิต BBB+ และ BBB มีการปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4.68% และ 5.46% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่มีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น


นอกจากนี้ กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติในไตรมาส 1 ของปี 2567 เป็นการขายสะสมสุทธิตราสารหนี้ไทยจำนวน 34,305 ล้านบาท ทำให้มีการถือครองตราสารหนี้ไทยเท่ากับ 9.0 แสนล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 คิดเป็นสัดส่วน 5.3% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยตราสารหนี้ไทยที่ผู้ลงทุนต่างชาติถือครองมีอายุคงเหลือเฉลี่ย 8.8 ปี เพิ่มขึ้นจาก 8.6 ปี เมื่อสิ้นปี 2566


ดร.สมจินต์ ได้กล่าวเสริมถึง ผลการสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2567 ที่ผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 2 ครั้ง รวม 0.5% ในปี 2567 โดยมีโอกาสสูงที่ กนง. จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับการคาดการณ์ Bond yield ไทย ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า ในปี 2567 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี อาจปรับตัวลดลงเฉลี่ย 5-10 bps. จากสิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 มาอยู่ที่ 2.13% และ 2.44% ตามลำดับ ณ สิ้นปี 2567 โดยปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อ Bond yield ในอนาคตคือ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ และสภาวะเศรษฐกิจของไทย 


#ThaiBMA #สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย #ตราสราหนี้ #หุ้นกู้