IAA surveys เผยนักวิเคราะห์มอง SET ไตรมาส 2 แตะ 1,447 จุด หุ้นแนะนำ AOT CK CPALL MINT

.

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เผยว่าจากการสำรวจความเห็นสมาชิกนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนรวม 24 สำนัก เกี่ยวกับมุมมองการลงทุนในไตรมาส 2-4 ของปี 2567 มองว่าทิศทางหุ้นไทย ช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ส่วนใหญ่มองมีแนวโน้มไปในทิศทางบวก โดยจะปิด สิ้นไตรมาส 2 ที่ 1447 จุด คาดกำไรตลาด (EPS) เฉลี่ย 92.92 บาท ลดลงจากเดิม (95.62 บาท ณ ม.ค.67) ทางด้าน EPS Growth เฉลี่ย 14.31%  

ในขณะที่มีมุมมองภาพรวมปี 2567 จะมีการแกว่งตัวในกรอบ 1,329 ถึง 1,548 จุด โดยไปปิดสิ้นปี 2567 ที่ 1535 จุด

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางการลงทุนจนถึงสิ้นปี 2567 เริ่มที่ปัจจัยบวก ส่วนมากมองตรงกันว่ามาจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัจจัยรองลงมา คือ ผลประกอบการของ บจ.ปี67 ตามมาด้วย Fund Flows จากต่างประเทศสู่ตลาดหุ้นไทย และปัจจัยด้านเศรษฐกิจต่างประเทศทั้ง อเมริกา ยุโรป เอเชีย

ในส่วนของปัจจัยด้านลบต่อตลาดทุนไทย คือ ปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งถูกมองว่ามีผลมากกว่าปัจจัยทางด้านการเมืองในประเทศ เนื่องจากความกังวลต่อความยืดเยื้อและขยายวงกว้างของสงครามที่มาจากหลายปัจจัยไม่ว่าปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่าง รัสเซีย-ยูเครน เป็นต้น รวมไปถึง การเลือกตั้งของทางสหรัฐฯที่ต้องจับตามองว่าจะไปในทิศทางไหน

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ณ สิ้นปี 2567 มีนักวิเคราะห์ส่วนมากมองตรงกันว่าคาดว่าจะปรับลด 0.50% และ 0.25% นั่นเอง

ทางด้านคำแนะนำให้มีการกระจายพอร์ตการลงทุน โดยจะเน้นที่หุ้นหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ       28% ทั้งนี้มีคำแนะนำให้ลงทุนกองทุนหุ้นสหรัฐฯโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี และ Selective Asia เช่น จีน(เศรษฐกิจกำลังจะฟื้น) อินเดีย(เศรษฐกิจเติบโตสูง) เกาหลี(มีโอกาสเติบโต) และเวียดนามอีกด้วย

ทั้งนี้รองลงมาจะเป็น กองทุนตราสารหนี้ 23.54%, หุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 23.46% และแนะนำให้ถือเงินสดและเงินฝากระยะสั้น 8.33% รองลงมาเป็น กองทุนอสังหาฯหรือ REIT และ ทองคำหรือกองทุนทองคำ อย่างละ 7.81% สุดท้ายเป็น สินทรัพย์อื่นๆ เช่น Bitcoin ,น้ำมัน 1.04%

สำหรับในการลงทุนหุ้นไทยนั้น แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค เงินทุน/หลักทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง และการท่องเที่ยว ในขณะที่ให้ลดน้ำหนักการลงทุนใน หมวดธนาคาร และธุรกิจประกัน

รายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป มีดังนี้

       1. AOT ได้อานิสงส์จากท่องเที่ยวฟื้นตัว โดย ธปท. คาดปีนี้มีนักท่องเที่ยว 34.5 ล้านคน +22.6% อีกทั้งยังมีมาตรการรัฐ ฟรีวีซ่า ซึ่ง AOT คาดผู้โดยสารในปีนี้ +20% เป็น 120 ล้านคนและไม่มีมาตรการให้ส่วนลดผู้ประกอบการ คาดรายได้ปีนี้ +39.6%

       2. CK ได้ประโยชน์จากการเร่งรัดงบเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐปี67 หนุนให้การประมูลโครงการรัฐหลังจากนี้มีมากขึ้น โดยงานปีนี้ที่รอประมูลได้แก่ รถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคาย ทางด่วนจตุโชติ และ ทางด่วนกะทู้-ป่าตอง เป็นต้น นอกจากนี้ในด้านต้นทุนพบว่าดัชนีวัสดุก่อสร้างลดลงต่อเนื่อง

       3. CPALL ได้ประโยชน์หลักจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ

       4. MINT ได้ประโยชน์จากธุรกิจโรงแรมในไทยและในยุโรปเติบโตดี ดอกเบี้ยจ่ายลดลง ธุรกิจอาหารฟื้นตัว

สำหรับหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นที่เกินมูลค่าปัจจัยพื้นฐานไปมาก และหุ้นรายตัวที่มีภาระกู้ยืมสูง/เพิ่มทุน

#IAA #IAAsurveys #AOT #CK #CPALL #MINT