เอเชียพลัส วิเคราะห์ SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มดีขึ้น วันนี้ประเมินกรอบ 1418 –1433 จุด หุ้นเด็ดวันนี้ได้แก่ JMART, PTTEP และ SCGP

บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ Fed Minute ที่เปิดเผยออกมายังคงให้ Guideline ว่าการปรับลดดอกเบี้ย นโยบายในปี 2567 จะเกิดขึ้น 3 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามในมุมของมองของตลาด การเงินก็ยังคงเห็นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นได้ถึง 6 ครั้ง ทั้งนี้ สะท้อนผ่าน Bloomberg Seuvey และFed Watch tool เป็นอันว่ายังเห็น Gap ที่ ค่อนข้างกว้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป Gap ก็น่าจะค่อย ๆ แคบลงอาจพบกันกลางทาง ก็เป็นได้ 


ส่วนในบ้านเรา จุดสนใจอยู่ที่การประชุมสภาผู้แทนฯ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 โดยเรามองในมุมของความคืบหน้าของกระบวนการ พิจารณามากกว่าความร้อนแรงในการอภิปราย อีกประเด็นที่อยู่ในความสนใจ ได้แก่ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์กรณี อิสราเอล-ฮามาส ซึ่งล่าสุดมีความเสี่ยง ต่อการที่สงครามจะขยายวงมากขึ้น และน่าจะเป็นแรงผลักดันให้ราคาน้ำมันขยับ ตัวสูงขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เชื่อว่า SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มขึ้น โดยมีปัจจัยแวดล้อมเชิงบวกหลายส่วนที่สนับสนุนการปรับฐานที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น วันนี้ประเมินกรอบ 1418 –1433 จุด หุ้นเด็ดวันนี้ได้แก่ JMART, PTTEP และ SCGP


วานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ปรับตัวขึ้น 3.3% และ 3.7% ตามลำดับ จนอยู่ที่ ระดับ 78 และ 73 เหรียญฯ/บาร์เรล หลังลิเบียทำการปิดบ่อน้ำมันชาราราซึ่งมีกำลัง การผลิต 300,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากประสบปัญหาการประท้วงของคนงาน อีกทั้ง สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและทะเลแดงยังมีแนวโน้มบานปลายเป็นวง กว้าง หลังมีรายงานว่านายซาเลห์ อัล-อารูรี ผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาสได้ถูกสังหาร จากเหตุระเบิดในเมืองเบรุตของเลบานอน ขณะที่ยอดเสียชีวิตในกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 22,000 คน ดังนั้นจึงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ว่าจะมีความคืบหน้าทางด้านความ รุนแรงอีกหรือไม่ ถ้าหากมีอาจเป็นตัวนำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 1- 2 สัปดาห์


ขณะที่ทางฝั่งสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับตัวลงแรง 1%-3% หลัง การประชุม FED Minutes (รายละเอียดตามหัวข้อด้านบน) คาดสร้าง Sentiment เชิง ลบต่อ SET Index ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม SET Index ไม่น่าจะผันผวนมากนัก เนื่องจาก ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น โดย SET Index มีสัดส่วนหุ้นน้ำมัน-โรง กลั่น เกือบ 1 ใน 3 ของน้ำหนักตลาดฯ โดยหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ PTT PTTEP TOP SPRC เป็นต้น สรุป แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลงแรง แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่าน มา จากความกังวล Supply ในตลาดน้ำมันตึงตัวขึ้น และความไม่สงบในสงคราม ตะวันออกกลางและทะเลแดง คาดเป็นประเด็นหนุนให้ SET Index Outperform ตลาด หุ้นอื่นๆได้ในวันนี้ โดยคาดมาจากหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น โดยฝ่ายวิจัยฯแนะนำ PTT PTTEP TOP SPRC เป็นต้น


ช่วงก่อนหน้าตลาดหุ้นโลกขึ้นมาร้อนแรง จากความหวังวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นจบรอบ แต่วานนี้เริ่มมีกระแสกังวลว่า Bond Yield สหรัฐระยะยาวที่ลงมาเร็ว สร้างดีมานด์ อสังหาฯ เพิ่มขึ้น อาจจะกดดันให้เงินเฟ้อขยับยากได้ กดดันให้เห็นการขายทำกำไร สินทรัพย์เสี่ยงในช่วงสั้นๆ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นโลก MSCI ACWI -1.7% (ytd) และหุ้นเทคฯ อย่าง NASDAQ ปรับตัวลงแรงกว่า -2.8% (ytd) แต่ตลาดหุ้นในเอเชียใต้ถูกกดดันน้อย กว่า อาทิ ตลาดหุ้นไทย +1% (ytd), ฟิลิปปินส์ +0.8% (ytd), อินโดฯ % +0.1%(ytd)


ขณะเดียวกันหากดูรายละเอียดลงไปในราย Sector พบว่า นักลงทุนเอนเอียงน้ำหนัก การลงทุนไปที่หุ้นน้ำมัน และหุ้นผันผวนต่ำ อย่าง การแพทย์ซึ่งให้ผลตอบแทนเป็นบวก สวนหุ้นกลุ่มอื่นๆ

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้น 2 ธีม คือ 1. หุ้นอิงกับราคาน้ำมัน อย่าง PTTEP, PTT, TOP, IRPC และ 2. หุ้นปันผลสูงเกิน 6% ต่อปี น่าจะช่วยรับมือในช่วงตลาดผัน ผวนได้ดี SIRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH, PYLON, DRT, SCB, QH, INTUCH



#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด #เอเชียพลัส