เอเชียพลัสชี้ SET INDEX ยังเดินหน้าต่อ หุ้นเด็ดได้แก่ CPN, SIRI และ WHA

       บริษัทเอเชียพลัสวิเคราะห์ ตัวเลขเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วดูผสมผสาน แต่น้ำหนักโดยรวมค่อนไป ทางบวก โดยสหรัฐ รายงานตัวเลข PCE เดือน พ.ย. 2.6% ต่ำกว่าคาด เปิดทาง ให้FED ปรับลดดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น โดย FED WATCH TOOL แสดงความน่าจะเป็นที่จะลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.67 ที่ 78% และลดต่อเนื่องรวม 5 ครั้ง ด้วยความน่าจะเป็นสูงกว่า 50% อย่างไรก็ตามมีตัวเลข GDP GROWTH ของยุโรปที่ดูน่ากังวลล่าสุด UK แสดงตัวเลข GDP GROWTH งวด 3Q66 ที่ -0.1% QOQ ซึ่งหากงวด 4Q66 ติดลบ QOQ อีก 1 ไตรมาส ก็จะเข้าสู่ภาวะ TECHNICAL RECESSION แต่องค์ประกอบดังกล่าวก็ยังสนับสนุนทิศทางดอกเบี้ยขาลง 


       สำหรับในบ้านเรายังไม่เห็นปัจจัยใหม่ ๆ ที่มีน้ำหนัก โดยในการประชุม ครม. พรุ่งนี้ น่าจะมีบทสรุปเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนมุมมองในทาง QUANTITATIVE ANALYSIS แสดงถึงโอกาสที่ SET INDEX จะเป็นบวกได้ต่อเนื่องในเดือน ม.ค.67 โดยภาพรวมเชื่อว่า SET INDEX ยังมีแรงที่จะขยับตัวขึ้นต่อในช่วง สัปดาห์สุดท้าย ของปี 2566 ประเมินปลายทางอยู่ที่ 1415-1420 จุด ส่วนวันนี้อยู่ในกรอบ 1395 –1412 จุด หุ้นเด็ดได้แก่ CPN, SIRI และ WHA


ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ เอื้อต่อการที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ในอีกทางหนึ่งการโจมตีเรือขนส่งสินค้าพาณิชย์นอกทะเลแดงอาจกดดันให้ราคาน้ำมัน ปรับตัวสูงขึ้นช่วงนี้ได้จากความกังวลในผลกระทบฝั่ง SUPPLY อย่างไรก็ตาม สัญญาณเศรษฐกิจที่ลดความร้อนแรงลง เป็นแรงกดดันราคาCOMMODITY จากฝั่ง DEMAND ที่อาจลดความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในระยะยาวได้


ขณะที่ SET INDEX ปรับตัวขึ้นมาติดต่อกัน 7 วันทำการ 47 จุด อยู่ที่ 1405 จุด แม้สัปดาห์นี้ จะเป็นเทศกาลหยุดยาวของต่างชาติ ทำให้มูลค่าซื้อขายเบาบางลงไปบ้าง แต่เชื่อว่า SET INDEX ยังมีโอกาสฟื้นขึ้นเด่นในช่วงต้นปี 2567 ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1. SET INDEX ในช่วงท้ายปีนี้ 1405 จุด ต่ำกว่าช่วงปลายปี 2565 และ 2566 อยู่ เกินกว่า 200 จุด ถือว่า LAGGARD กว่าในอดีตมาก 

2. การเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยที่ย่อตัวลง สวนทางกับแนวโน้มการเติบโตของ กำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มฟื้นขึ้นเรื่อยๆ EPS65 81.5 บาท/หุ้น, EPS66F 88.6 บาท/หุ้น และ EPS67F 99.8 บาท/หุ้น ซึ่งปีหน้าคาดว่าเติบโต ได้ถึง 12.6% (สูงสุดในรอบ 2 ปี) 

3. หวังว่าจะเร่งตัวขึ้นได้ดีในช่วงต้นปีหน้า จากข้อมูลย้อนหลัง 49 ปี ตลาดหุ้น ไทยมักจะขึ้นได้ดีในเดือน ม.ค. เฉลี่ย 2.2% สูงกว่าเดือนอื่นๆ เฉลี่ย 0.6% และ หากดูการกระจายตัวของผลตอบแทน พบว่า มีลักษณะเบ้ซ้าย (SKEWED TO LEFT) คือ อ้วนในฝั่งขวาเยอะสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ (มีโอกาสให้ ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว้าดือนอื่นๆ) และแคบในฝั่งซ้ายเป็นอันดับต้นๆ (มี โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นเป็นลบน้อยกว่าดือนอื่นๆ)


       ด้านกลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นให้ความสำคัญกับ ESG ที่แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น หรือ ปันผลสูง • หุ้น ESG RATING สูง กำไรเติบโตเด่น -> CK, GULF, CRC, BEM, CPALL, MINT • หุ้น ESG RATING สูง ปันผลสูง -> SIRI, BRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH, INTUCH, AP, TTCL, MAJOR, BBL, ADVANC



#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด #เอเชียพลัส