BBIK เปิด 7 Tech Capabilities พร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลง - เพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น Digital-First Company เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน

      นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมจะมีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจและดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การพึ่งพาเทคโนโลยี  ในชีวิตประจำวัน ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม การปรับกระบวนการดำเนินงานเพิ่มความยืดหยุ่น มุ่งเน้นประสิทธิผล และลดความเสี่ยงในธุรกิจ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ภาพรวมของ Technology Landscape ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านคาดการณ์ของ Gartner ที่ระบุว่าเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีทั่วโลกจะแตะ  5.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2566

.

      โดย ‘บลูบิค’ ได้สรุป 7 Tech Capabilities สำคัญประจำปี 2567 ที่จะช่วยยกเครื่องการทำธุรกิจโดยแบ่งออกเป็น 4 แกนหลัก เพื่อให้องค์กรสามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงการวางรากฐานการเติบโตตามหลักความยั่งยืน ESG ที่จะเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจในระยะยาว ดังต่อไปนี้ 

.

แกนที่ 1 Augmented Intelligence - เป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิดการผสานพลัง AI และมนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่กัน โดยขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนแนวคิดนี้ คือ Democratization of Generative AI (Gen AI): การเข้าถึงเทคโนโลยี Gen AI ในวงกว้างจะช่วยสร้างโอกาสในแง่มุมต่าง ๆ ให้ธุรกิจ อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การลดงานซ้ำซาก และยกระดับการเข้าถึงลูกค้าผ่านการหา Customer Insights ด้วย AI 

.

แกนที่ 2 Digital Ecosystem - การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เชื่อมต่อหลายระบบและบริการเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า สามารถใช้งานได้หลากหลายผ่านช่องทางเดียว ซึ่งการสร้าง Digital Ecosystem อาทิ Super App ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต ต้องให้ความสำคัญกับขีดความสามารถดังต่อไปนี้ 1) Multiexperience (MX) : เป็นการสร้างประสบการณ์การใช้บริการและซื้อสินค้าอย่างราบรื่นให้แก่ลูกค้า ครอบคลุมทุกจุดสัมผัสบนช่องทางดิจิทัล และการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม  2) Event-Driven Nano Architecture (EDNA) : เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ประกอบด้วยนาโนเซอร์วิส ที่แยกออกจากกัน ซึ่ง EDNA มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่น สามารถพัฒนาบริการในแต่ละส่วนงานระดับนาโน 

.

แกนที่ 3 Digital Immunity and Trust - เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขีดความสามารถที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้แก่ 1) Generative Cybersecurity AI: เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งาน Generative AI  2) AI-Enhance Security Operations: เป็นเทคโนโลยี AI ที่เปรียบได้กับกระบวนการหลังบ้านของระบบดำเนินการด้านความปลอดภัย ที่มาเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์เกี่ยวกับความปลอดภัยและแนวทางการตอบสนองต่อภัยคุกตามในรูปแบบต่าง ๆ 

.

แกนที่ 4 Sustainability Technologies - เป็นการผสมผสานแนวคิดด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนซึ่งประกอบด้วย 1) เทคโนโลยีที่ออกแบบเพื่อแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงปัญหาสิ่งแวดล้อม และ 2) เทคโนโลยีที่สนับสนุนนโยบายด้าน ESG ซึ่งบลูบิคพบเทรนด์ที่น่าจับตามองในปีหน้า ดังนี้ 1) AI for Sustainability: เป็นการใช้ AI ช่วยปรับปรุงระบบการดำเนินงานและจัดการกระบวนการที่เป็นอุปสรรคต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยคาร์บอน 2) ESG Management and Reporting: เป็นกระบวนการบริหารจัดการและจัดทำรายงานด้าน ESG ที่จะเข้ามาช่วยองค์กรรับมือกับแรงกดดันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม 

.

ผู้คน เทคโนโลยี และธุรกิจ กำลังเชื่อมโยงกันมากขึ้นทุกวัน และพร้อมส่งผลกระทบซึ่งกันและกันหากเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในส่วนใดส่วนหนึ่ง เห็นได้ชัดจากอิทธิพลของ Generative AI ค่านิยมใหม่ของผู้คน และความสมดุลระหว่างประโยชน์และผลลัพธ์เชิงลบอันเกิดจากการใช้เทคโนโลยีของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นการทำดิจิทัลทรานส์  ฟอร์เมชันจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ 

#bluebik #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวธุรกิจ #ข่าวประจำวันนี้