บล.เอเชียพลัส แนะนักลงทุนปรับพอร์ตเพิ่ม BETA ลดระดับเงินสดลง หุ้นเด็ดได้แก่ SCGP, SIRI และTISCO

       บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัสประเมินการประชุม กนง. วันนี้มีโอกาสสูงที่จะเห็นการคงอัตราดอกเบี้ย นโยบายไว้ที่ 2.5% ซึ่งอาจถือเป็นจุดปลายทางของการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ หลังจากปรับขึ้นมาต่อเนื่อง 5 ครั้ง ทั้งนี้เหตุผลสนับสนุนการคงอัตราดอกเบี้ย เป็นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงบ้านเราเป็นบวกมากกว่า 2.8% ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงกระตุ้นจากนโยบายการเงิน 


      ในส่วนของทิศทาง FUND FLOW เริ่มเห็นสัญญาณบวก โดยโบรกเกอร์ต่างชาตที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 2 อันดับแรกกลับมาซื้อสุทธิ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาต่อเนื่อง องค์ประกอบที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับตลาดหุ้นบ้านเรา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำให้เห็นการฟื้นตัวของ SET INDEX ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ลดลง ในเชิงของการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้ทยอยปรับพอร์ตเพื่อเพิ่ม BETA และลดระดับเงินสดลง ประเมินภาพของ SET INDEX ในทางบวก โดยการดีดตัวขึ้นไปในรอบนี้มีโอกาส ผ่าน 1420 จุดได้ไม่ยาก ส่วนวันนี้ประเมินกรอบช่วง 1395 – 1410 จุด กลยุทธ์ แนะนำให้ปรับพอร์ตเพิ่ม BETA หุ้นเด็ดได้แก่  SCGP, SIRI และTISCO


       ขณะที่การประชุม ครม. วานนี้มีมาตรการกระตุ้นออกมามากมาย หนุนให้เศรษฐกิจไทยโต ดีเป็นขั้นบันได ขณะที่กลุ่มหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม(AOT CENTEL ERW MINT AAV), กลุ่มค้าปลีก(CPAXT HMPRO COM7 CRC CPALL BJC CBG) และกลุ่มเช่าซื้อ(TIDLOR MTC SAWAD BAM) เป็นต้น ดังนั้นด้วย SENTIMENT เชิงบวกดังกล่าว คาดทำให้ SET INDEX วันนี้แกว่งตัว SIDEWAY UP โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวระดับ 1395 1410 จุด


นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯ บล.เอเชียพลัสยังเห็น MOMENTUM FUND FLOW ไหลเข้ามาหนุนตลาดหุ้นไทยอยุ่ 3 ส่วน คือ 1) วานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดการเงินไทยทุกแห่ง โดยซื้อสุทธิตราสาร หนี้610 ล้านบาท,ซื้อหุ้นไทย 773 ล้านบาท และ TFEX อีก 20,094 สัญญา 2) ดัชนี MSCI THAILAND ETF เมื่อคืนปรับตัวขึ้นแรง 1.8% มาอยู่ที่ 63.36 จุด และเป็นการฟื้นกลับมาบริเวณดัชนีวันที่ 21 พ.ย. 66 เทียบเท่ากับ SET INDEX ได้ราว 1420 จุด สูงกว่า ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 1401 จุด 3) เริ่มเห็นเม็ดเงินต่างชาติซื้อหุ้นไทยกลับผ่านโบรกเกอร์ที่มีสัดส่วนซื้อขายสูง อาทิ KKP ที่มีสัดส่วนมูลค่าซื้อขายอันดับ 1 ที่ 21.3% กลับมาซื้อสุทธิหุ้น ไทยหนักวันละ 1.5 พันล้านบาท ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการซื้อสุทธิ สูงสุดเป็นอันดับ 6 และ 7 จาก 223 วันทำการในปีนี้ ตามมาด้วย JPM ที่มี สัดส่วนมูลค่าซื้อขายอันดับ 2 ที่ 7.1% กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยวานนี้เช่นกัน 180 ล้านบาท

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นแสดงเห็นถึงการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติทยอยไหลกลับเข้ามาที่ตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แนะนำปรับพอร์ตลดหุ้น BETA ต่ำ สลับมาลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่มี BETA สูงๆ (>1) หวังว่าจะมีการฟื้นกลับที่แรงกว่า SET INDEX อาทิ JAMRT,JMT, EA, GPSC, TIDLOR, MTC, SAWAD, STEC, PTTGC, CBG, IVL, SCGP, GULF, SIRI



#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด