ตลาดหุ้นไทยรอ!! เม็ดเงินใหม่เข้า คาด SET INDEX วันนี้ขยับตัวในกรอบ 1380 – 1400 จุด และหุ้นเด็ด คือ SIRI, SCGP และ PTTGC

    บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส วิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลงมาแล้ว -11% และ UNDERPERFORM กว่าตลาดหุ้นโลกมาก อีกทั้งยังมีปริมาณ SHORT SELL เฉลี่ยสูงถึง 5.1 พันล้านบาทต่อวัน และสูงกว่าช่วง COVID ก่อนมีกฎ UPTICK ที่ SHORT SELL เฉลี่ย 3.9 พันล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยตกหนัก ส่วนวันนี้รอผลสรุปเรื่องจัดตั้ง ESG FUND เข้ามาสร้างเสถียรภาพระยะยาว ให้กับตลาด ซึ่งถ้าเงื่อนไขต่างๆ คล้ายคลึงกับกองทุน LTF และสามารถออกมาได้ ภายในปีนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาหนุนตลาดหุ้นไทยได้ราว 2 –7 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะหุ้น 114 บริษัทใน SETESG INDEX 

.

    นอกจากนี้ฝ่ายวิจัยฯ บล.เอเชียพลัส ได้ทำการสำรวจหุ้นใน SETESG ที่ถูก SHORT SELL เยอะๆ มี โอกาสได้เม็ดเงินใหม่หนุน พร้อมกับถูก COVERED SHORT ด้วยอีกแรง อาทิ EA, BGRIM, GPSC, SCGP, PTTGC, HMPRO, GULF, CPALL, CRC, SCC, MINT, SIRI ฯลฯ โดยประเมิน SET INDEX ขยับตัวในกรอบ 1380 – 1400 จุด และหุ้นเด็ด คือ SIRI, SCGP และ PTTGC

.

       ขณะที่ระยะถัดไป SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลเร่งฟื้นความเชื่อมั่นของ SET INDEX โดยวันนี้จะมีการประชุมของรัฐบาล FETCO – AIMC เกี่ยวกับประเด็น ข้อสรุปเกณฑ์ตั้ง ESG FUND (ไม่ใช่กองทุนพยุงหุ้น แต่จะเป็นกองทุนคล้าย LTF) ซึ่ง ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าหาก ESG FUND ได้รับการอนุมัติ จะเป็นภาพบวกต่อ SET INDEX ให้มีมูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักอีกครั้ง คาดหวังเม็ดเงินหนุนช่วงที่เหลือของปี 2 – 7 หมื่นล้านบาท เฉกเช่นเดียวกับช่วงที่มีกองทุนประหยัดภาษี LTF ที่มีมูลค่าเม็ด เงินหนุนตลาดกว่า 6-7 หมื่นล้านบาท/ปี (เฉพาะเดือน ธ.ค. มีมูลค่าเม็ดเงินหนุน ตลาดกว่า 2 หมื่นล้านบาท)

.

    อีกทั้ง ESG FUND ยังมีความน่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ SETESG INDEX ชนะ SET INDEX ทุก TIMEFRAME ดังรูปด้านล่าง กล่าวคือ SETESG INDEX มี ความสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า SET INDEX ทั้งช่วงตลาดหมี และกระทิง ดังนั้น คาดทำให้หุ้นที่อยู่ในกลุ่ม SETESG INDEX ทั้ง 114 ตัว จะน่าสนใจขึ้น และเป็น เป้าหมายของ ACTIVE FUND และ PASSIVE FUND

.

.

#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด