5 กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์จาก DIGITAL WALLET

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้มีการแถลงถึงความคืบหน้าล่าสุดของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้รายละเอียดเงื่อนไข DIGITAL WALLET ผู้มีสิทธิ์ได้รับต้องเป็น ชาวไทยอายุ16 ปีขึ้นไป และมีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาท/เดือน หรือเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท กลุ่มเป้ามีหมายประมาณ 50 ล้านคน โดยให้สิทธิ์ใช้ในระยะ 6 เดือน ครอบคลุมการใช้จ่ายในระดับอำเภอตามบัตรประชาชน โดยจะสิ้นสุดโครงการ 2570 และเริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ค. 2567 (ใช้กับสินค้าอุปโภค-บริโภค เท่านั้น)

นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไข E-REFUND สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าโครงการ DIGITAL WALLET โดยรัฐบาลประเมินกลุ่มเป้าหมายไว้ราว 4 ล้านคน สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ในวงเงิน 50,000 บาท ตั้งแต่ ม.ค. 2567 เป็นต้นไป (ใช้กับสินค้าอุปโภค-บริโภคและ บริการ เท่านั้น)

โดยบริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส มองภาพรวมของนโยบาย เม็ดเงินรวมทั้ง 2 โครงการประเมินราว 6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงการ DIGITAL WALLET 5 แสนล้านบาท ส่วนอีก 1 แสนล้านบาท รัฐจะนำเงินไปใส่ในกองทุนเสริมสร้างการแข่งขันใน 13 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (NEW S-CURVE) รวมถึงคาดหวังวงเงินจากโครงการ E-REFUND ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 1-2แสนล้านบาท โดยรัฐบาลเชื่อว่า จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ GDP GROWTH ปีหน้าโตระดับ 5%YOY.

 ขณะที่พิจารณาในมุมของหุ้นกลุ่มที่มีโอกาสได้ประโยชน์คาดว่ามีอยู่ 5 กลุ่มหลัก ดังนี้

* กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW

* กลุ่มอาหาร MINT M AU

* กลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN

* กลุ่มการเงินและโฆษณา KTC AEONTS

* กลุ่มอุปโภค/บริโภค CPAXT HMPRO ADVANC COM7 CRC CPALL BJC

.อย่างไรก็ตามประเด็น แหล่งที่มาของเงินยังเป็นสิ่งที่ตลาดกังวล เนื่องจากหากรัฐบาลกู้หนี้เพิ่มหนี้อีก 5 แสนล้านบาท จะทำให้หนี้สาธารณะ หรือ PUBLIC DEBT/GDP สูงสู่ระดับ 65% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 62.14% และการมีหนี้สาธารณะสูงขึ้นอาจมีผลต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ ซึ่งมีโอกาสสูงขึ้นที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันต่าง ๆ

.

#สรุปภาวะการลงทุน #SET #StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวการลงทุน #ข่าวหุ้น #สรุปสภาวะตลาด