WINDOW จ่อ iPO 2.10บาท จอง 16-18 ต.ค.นี้

WINDOW ธุรกิจประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปรายใหญ่ โกยรายได้เกือบพันล้านต่อเนื่อง 3 ปี ผนวกพันธมิตรร้านค้ารายย่อย รายใหญ่ทั่วประเทศ และเตรียมตบเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์คุณธนินทร์ รัตนศิริวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (WINDOW) เปิดเผยในพิธีลงนามและแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ว่าได้นำบริษัทฯ เป็นผู้นำด้านผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปที่ทำธุรกิจมานานเกือบ 10 ปี และเป็นเจ้าแรกที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อต่อยอดทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในตลาดทุนไทย อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และเป็นผู้นำด้านการให้บริการ โดยวินโดว์ เอเชีย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ กล้ารับประกัน ประตูและหน้าต่างตลอดอายุการใช้งาน พร้อมวางเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างอย่างครบวงจร

โดยการประสบความสำเร็จนั้นสะท้อนให้เห็นผ่านงบการเงินที่แข็งแกร่ง ทั้งตัวเลขผลประกอบการ รายได้และกำไรของบริษัท ที่เติบโตตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ดังนี้

ในปี 2563 รายได้รวม 747.50 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 220.33 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท

ในปี 2564 รายได้รวม 835.51 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 247.37 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท

ในปี 2565 รายได้รวม 913.35 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 239.67 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 74 ล้านบาท

นอกจากนี้ผลประกอบการในปี 2566 ช่วง6 เดือนแรก รายได้รวม 526.88  ล้านบาท และกำไรสุทธิ 42.05 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวม 536.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.56 ล้านบาท

คุณธนินทร์คาดว่าในครึ่งปีหลัง ปี 2566 นี้ จะเติบโตได้เป็นอย่างดี เนื่องจากทางบริษัทฯ มีแผนทำสินค้าใหม่เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และมองหาแผนทำธุรกิจ S-Curve ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้านั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ มั่นใจว่าเป็นเจ้าเดียวที่ให้บริการการติดตามดูแลค้าเป็นอย่างดีหลังการซื้อขาย รวมไปถึงลูกค้าที่เป็นช่างติดตั้งโดยหากวัสดุติดปัญหาอะไรสามารถแจ้งเรื่องมาทางบริษัทได้โดยตรงได้เลย ถือได้ว่าเป็นจุดโดดเด่นในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งแม้จะมีหลายรายที่แข่งขันด้วยกลยุทธิ์ทางราคาแต่ก็ไม่มีการติดตามให้บริการลูกค้าหลังการซื้อขายนั่นเอง

ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี มองว่าจุดเด่นของธุรกิจนี้ มี 3 ข้อ ดังนี้

(1) เป็นธุรกิจชั้นนำในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งความเชี่ยวชาญ

(2) ครอบคลุมช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งกับลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย ช่องทางออนไลน์ และอื่นๆ

(3) เล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ที่ยังโตต่อไปได้ นั่นรวมไปถึงการขยายกิจการไปต่างประเทศด้วยนั่นเอง

ในพิธีลงนามและแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ถูกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และทางบริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ประเทศไทย ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นสามัญหลัก 

นอกจากนี้ ก็ยังมี บริษัท หลักทรัพย์ พาย จํากัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด, บริษัท หลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ที่ทำหน้าจัดจำหน่ายหุ้นสามัญรองลงมา

ในการระดมทุนในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อนำไปใช้หลักๆ ดังนี้ 1.) นำเงินไปเพิ่มกำลังผลิตและสร้างโรงงานผลิตเพิ่ม เชื่อว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตได้กว่า 50% หลังการระดมทุนในครั้งนี้ 

 2.) คืนเงินกู้กับสถาบันการเงินบางส่วน 3.) นำไปเป็นเงินหมุนในธุรกิจ

#WINDOW #WINDOWASIA #วินโดว์เอเชีย

#UOBKayhian #CGSCIMB

#StockReview #BusinessLineandLife #ข่าวธุรกิจ #ข่าวประจำวัน