YGG จับมือพันธมิตรเปิดตัวภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ - มุ่งสู่ธุรกิจต้นน้ำดันมาร์จิน-กำไรเพิ่ม

อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จับมือพันธมิตร สร้างประสบการณ์ใหม่ เปิดตัวภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ ได้รับแรงบันดาลใจจากเกม “Home Sweet Home” เตรียมดึงศิลปินดังขวัญใจคนทั้งประเทศ รับบทแสดงนำฝ่ายหญิง ประกบพระเอกฮอลลีวูด อีกทั้งได้โปรดิวเซอร์ชื่อดัง ดีท อัลทิท” ผู้สร้างหนังRealms และ The Misfits มาร่วมงาน พร้อม “Alexander Kiesl และSteffen Hacker” นั่งแท่นผู้กำกับ เชื่อกระแสตอบรับดี ขณะที่บริษัทตัวแทนจากหลายประเทศทั่วโลกแห่ขอซื้อสิทธินำออกฉาย มั่นใจบริษัทมุ่งสู่ธุรกิจต้นน้ำรับรู้รายได้รูปแบบใหม่ ดันมาร์จิน-กำไรเพิ่ม

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทอิ๊กดราซิล กรุ๊ปจำกัด (มหาชนหรือ YGG เปิดเผย ถึงความคืบหน้าในการจับมือกับกับพันธมิตรรายใหญ่จากอเมริกา ร่วมกันสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวูด โดยพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกา มีการแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์บนเวทีฮอลลีวูดอย่างเป็นทางการแล้ว และหลังจากนั้นจะเริ่มเปิดกล้องเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ทันที คาดว่าจะเปิดฉายทั่วโลกได้ภายในปี 2567  

ถือเป็นครั้งแรกและเป็นก้าวแรกสำหรับ YGG ในการเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเข้าร่วมผลิตหนังฮอลลีวูดครั้งนี้ โดยมีการเจรจาดึงศิลปินขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังได้โปรดิวเซอร์ชื่อดัง ดีท อัลทิท ผู้สร้างหนัง Realms และ The Misfits มาร่วมงาน รวมทั้งได้ผู้กำกับอย่าง Alexander Kiesl และ Steffen Hacker มาร่วมงานอีกด้วย” นายธนัช กล่าว 

นายธนัช กล่าวอีกว่า เป็นภาพยนตร์ที่มีศิลปินขวัญใจคนทั้งประเทศมารับบทแสดงนำฝ่ายหญิง ประกบพระเอกฮอลลีวูด รวมทั้งเนื้อเรื่องยังโปรโมทความเป็นไทย จากการดำเนินเรื่องที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมสัญชาติไทยที่ดังไปทั่วโลกอย่างเกม Home Sweet Home ที่มีผู้ steaming มากว่า 370 ล้านครั้ง โดยมีการถ่ายทำทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศซึ่งมั่นใจว่าจะได้กระแสตอบรับดี และแทบปิดประตูขาดทุนตั้งแต่ยังไม่ได้สร้าง เพราะขณะนี้มีบริษัทตัวแทนจากหลายประเทศทั่วโลกเจราจาขอซื้อสิทธิเพื่อนำออกฉายทั่วโลก รวมถึงช่องทาง Streaming ต่างๆ เรียกได้ว่าโอกาสของอัพไซด์เปิดกว้างให้บริษัทค่อนข้างมาก

 เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ YGG ที่พัฒนาต่อยอดจาก IP เกมHome Sweet Home ถือเป็นอีกก้าวของYGG ที่ได้นำผลงานออกสู่เวทีฮอลลีวูด เป็นการต่อยอดธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ และขยับสู่ธุรกิจต้นน้ำซึ่งจะทำให้ YGG มีช่องทางการทำตลาดทั่วโลกได้กว้างขึ้นตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ซึ่งภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดมูลค่าการตลาดค่อนข้างสูงมาก เป็นโอกาสของบริษัทที่ได้เพิ่มธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มการรับรู้รายได้รูปแบบใหม่ทำให้มั่นใจว่ามาร์จินและกำไรจะเติบโตไปด้วย และหลังจากนี้คงจะเห็นYGG ขยับจากการเป็นแค่ผู้รับจ้าง เป็นผู้สร้างในโมเดลรูปแบบนี้อีกหลายโปรเจคในอนาคตข้างหน้า” นายธนัช กล่าว