สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการทำธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยถึง “การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยภายใต้บริบทใหม่เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการทำธุรกิจประกันภัยที่กำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งเลขาธิการ คปภ. วันที่ 31 ต.ค.2566 หลังดำรงตำแหน่งดังกล่าวมา8 ปีต่อเนื่อง 2 สมัย ได้กล่าวถึง
ภารกิจที่ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปแล้ว 8 ปี และภารกิจที่ค้างและขอฝากให้ท่านเลขาธิการ คปภ.คนใหม่ สานต่อ 4 มิติ ให้เป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมประกันภัยและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ทั้งนี้อุตสาหกรรมประกันภัยต้องปรับตัวรับความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการปรับตัวด้านเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งนับว่าท้าทายในแผนพัฒนาประกันภัยฉบับที่4 ต้องปรับและพร้อมไปต่อ “โดยเฉพาะ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ทางด้าน Insurtech นวัตกรรมประกันภัยแห่งอนาคต สู่ Digital Insurance ซึ่งที่ผ่านมาได้ตั้ง Center of Insurance Thailand (CIT) เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมด้านInsurance ให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัยได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น Application แพลตฟอร์ม“Me Claim” และ OTC Gateway รวมถึง Chatbot “คปภ.รอบรู้” ดร.สุทธิพล กล่าว
สำหรับแผนงานที่ได้ดำเนินการไปแล้วมีดังนี้
ด้านที่ 1 แก้ไขปัญหาบริหารที่ค้างอยู่ กฏหมาย และปรับปรุงโครงสร้างให้สามารถดำเนินการได้คล่องตัวได้จัดโครงสร้างการทำงาน มีการลดตำแหน่ง ระดับผู้อำนวยการ เน้นสร้างคน ยกระดับงานด้านเทคโนโลยี
ด้านที่ 2 การกำกับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการประกันภัย
(1) Insurance Business System (IBS)
(2) RBC Stress Test (FSAP)
(3) Regulatory Guillotine
(4) IT Audit
(5) การจัดการด้านความเสี่ยง
ด้านที่ 3 ส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัย ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ให้สอดรับสภาพแวดล้อมใหม่
1.Center of insuretech , Thailand CIT สร้าง eco system insurance ให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัย มีศูนย์เคลมกลางในการเชื่อมต่อ OIC gateway และApplication “Me Claim “
2.พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูล การตรวจสอบการชำระประกันภัย พรบ.
ด้านที่ 4 การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้เข้าถึงทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นรายย่อยและชุมชน โครงการ คปภ. ชุมชน จะสำรวจความเสี่ยงก่อนลงพื้นที่ เน้นช่วยถ่ายทอดของดีๆของท้องถิ่น การเชื่อม 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ กับความเสี่ยงของพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่น จังหวัดอุทัยธานี การประกันภัยอ้อยโรงงานน้ำตาลซื้ออ้อยจากชาวไร่ แล้วเอากากน้ำตาลมาทำปุ๋ย แล้วให้ชาวไร่อ้อยมาซื้อปุ๋ยแล้วแถมประกันเป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการประกันภัยทุเรียนภูเขาไฟ ศรีษะเกษ มีจุดเด่น จด GI เป็นทรัพย์สินทางปัญญา และจ.นครพนม มีการศึกษาว่าประชาชนชาวอีสานชอบรับประทานอาหารดิบ ก็นำเสนอ ประกันภัยท่อน้ำดีสำหรับภาคใต้ ก็เน้นย้ำประกันภัยยางพารา
ด้านกรมธรรม์ประกันภัยรายย่อย Micro insurance เน้นราคาถูก ประชาชนเข้าถึงพร้อมดึงผู้ประกอบการห้างร้าน นับว่าเป็นการขยายฐานโดยการสร้างการรับรู้และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุเพื่อคนพิการสำหรับรายย่อย
ด้านที่ 5 ยกระดับการให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยี รองรับทุกการเข้าถึงของอุปกรณ์
มีการปรับe-Arbitration, ต่อยอดช่องทาง กูรูประกันภัย, OIC gateway 5G และ Insurance Regulator Sandbox
ด้านที่ 6 ระบบการประกันภัยภาคการเกษตร
1.การประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดสัตว์เลี้ยง
2.การร่วมมือทางวิชาการร่วมกันกับสนง.เศรษฐกิจ
3.เน้นความร่วมมือการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสำรวจพัฒนาระบบประกันภัยเพื่อการเกษตร
สิ่งที่เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้วและจะต้องทำต่อ โดยขอฝากให้กับท่านเลขาธิการคนใหม่ ขับเคลื่อนต่อผ่าน 4 มิติ
- มิติการปรับปรุงหลักเกณฑ์กำกับดูแลที่มีความยืดหยุ่น ผลักดันกฏหมายแม่บท ขับเคลื่อนร่างพรบ.ประกันภัยทางทะเล
- มิติการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ภาคธุรกิจประกันภัยมุ่งสู่ Digital Insurance อย่างเต็มรูปแบบ
- มิติการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยมุ่งสู่sustainable insurance ส่งเสริม ESG (Environment Social Governance ) สิ่งแวดล้อม สังคม ธรมมาภิบาล เชื่อมโยงข้อมูลด้านประกันภัยในอาเซียน
- มิติ ยกระดับการกำกับดูแลและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนด้านการประกันภัย ยกระดับสนง.สู่สมาร์ทOIC , Insuretech Hub ศูนย์ CIT ในกลุ่ม CLMV ปรับหลักสูตร วปส. วิทยาการประกันภัยระดับสูง ให้เป็นศูนย์กลางวิชาการของอาเซียน ให้อุตสาหกรรมประกันเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มมากขึ้น